วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คุณว่าฉันโหด???


        การกระทำของฉันอาจจะดูโหดและรุนแรง แต่ในความเป็นจริงแล้ว...
ฉันแค่ปกป้องสิทธิบางอย่างให้กับตนเองหรือครอบครัวของฉัน
ปกติแล้วฉันเป็นคนง่ายๆ มาตลอด "ยังไงอะไรก้อได้"
เป็นคำที่ฉันพูดเสมอจนทุกวันนี้ไม่มีใครเกรงใจฉันแล้ว

       เพื่อนฉันหลายคนบอกฉันว่า "เธอแมนมากเลย แต่งตัวแนวๆซะด้วย"
ฉันยิ้มรับกับคำกล่าวนั้น แต่ฉันก้องงเหมือนกันนะ นี่ฉันแมนเหรอ 555
ที่จริงฉันก้อไม่ได้แมนหรอก แต่รู้สึกดีที่ได้ปกป้องคนอื่น ช่วยเหลือคนอื่น
มันเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งนะ คิกๆ
อะไรที่เราช่วยเหลือกันได้ ก้อช่วยเหลือกันไป ยังไงเราก้อเพื่อนกันอยู่แล้ว... ^^

       

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อย่ารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว!!!

        "ทุกคนก้อต้องมีเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่ง
กรุณาอย่ามาวุ่นวาย พวกเราไม่ได้ทำอะไรเสียหายหรือไม่ดี
ไม่ได้ทำให้วงศ์ตระกูลเสียหาย พวกเรามีสิทธิที่จะทำอะไรก้อได้
พวกเราโตแล้วนะคะ ดูแลรับผิดชอบตัวเองได้พอสมควรแล้ว
รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ถ้าหากว่าพวกคุณจะจับตาดูพวกเราขนาดนี้
ก้อไม่มีใครอยากจะนับญาติกับพวกคุณหรอกค่ะ
ใครๆก้ออยากมีพื้นที่ส่วนตัวทั้งนั้น
แล้วถ้าลูกของคุณมีใครสักคนบ้าง คุณจะจับตาดูลูกของคุณขนาดนี้ไหมคะ
ถ้าอย่างนั้นก้อปล่อยให้ลูกของคุณขึ้นคานไปเถอะค่ะ 555"

      ถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่ชอบหรอกค่ะ ที่ให้ใครมาวุ่นวายเรื่องส่วนตัว
ใครๆก้ออยากมีมุมส่วนตัว พื้นที่สักเล็กน้อยที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่อยากทำกันทั้งนั้น
ที่กล่าวข้างต้น ไม่อยากจะว่าหรือตำหนิแต่อย่างใด
แค่อยากให้คุณรู้สึกตัวกับการแสดงความคิดเห็นเพียงไม่กี่คำของฉันเท่านั้น
อยากให้มองในทางกลับกันบ้างว่า ถ้ามีใครบางคนทำกับคุณเช่นนี้บ้างคุณจะรู้สึกเช่นไร
หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ฉันว่าคุณก้อร่ำเรียนมานะ
คุณครูรวมถึงพ่อแม่ของคุณคงจะสอนมาบ้างว่า "มารยาท" เขาสะกดกันยังไง
ฉันขอเตือนค่ะ ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นใคร ผู้ใหญ่หรือลูกเด็กเล็กแดงที่ไหน
อาจจะเป็นญาติ แค่คนรู้จัก หรือแม้กระทั่งเพื่อน ฉันก้อไม่ไว้หน้าทั้งนั้นค่ะ
ทุกคนเขาก้อมีข้อจำกัดของเขา การกระทำให้คนอื่นได้ชั่วนั้น
คุณอาจจะดีใจที่คุณหาเรื่องหรือข้อตำหนิให้ผู้เป็นมารดาของข้าพเจ้าทุกข์ใจ
แต่ระวังไว้ให้ดีเถอะค่ะ!!!



ป.ล. ฉันเตือนแล้วนะคะ ตอนนี้คุณทำได้คุณก้อทำให้เต็มที่ แต่อย่าให้ถึงคราวฉันบ้างละกัน 555

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คำขู่ใช้ไม่ได้ผล ถ้าแน่จริงลงมือเลยดีกว่า...

       ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน ก็ต้องมีคนที่รักและคนที่เกลียด...
น่ารังเกียจนะ ที่คุณมีความคิด มีสติปัญญา สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
และทราบมาว่าคุณอยู่ปีสาม และอยู่หอเจ็ด ซึ่งน่าจะมีวุฒิภาวะพอสมควร
แต่คุณกลับใช้อำนาจในทางที่ผิด คำว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ได้มีไว้ให้คุณยกตนขึ้นใหญ่กว่าคนอื่น
คุณคิดหรือว่าการกระทำเช่นนี้ คุณทำแล้วจะมีคนเคารพคุณ รังแต่จะทำให้มีคนเกลียด
ถ้าคุณคิดว่าการกระทำขู่รุ่นน้องของคุณ จะทำให้น้องคนหนึ่งในคณะเดียวกันกับคุณรู้สึกกลัวหรือเกรงใจคุณ
เปล่าเลย คุณกำลังคิดผิด คุณกำลังจะทำให้ความน่ารังเกียจในตัวคุณ
มันส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เน่าน่ารังเกียจออกมา
การกระทำนี้จะทำให้รุ่นน้องรู้สึกต่อต้านคุณจะทวีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จริงอยู่ คุณอาจจะไม่ชอบใครก็ได้ที่เดินผ่านมา ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก
แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อน คุณก็อยู่ในส่วนของคุณ เขาก็อยู่ในส่วนของเขา
ไม่ก้าวก่ายในส่วนของกันและกัน เท่านี้เรื่องก็จบ
หากคุณจะใช้อำนาจรุ่นพี่รังแกรุ่นน้อง อย่าใช้แต่เพียงคำขู่เลย
ถ้าคุณคิดว่ารุ่นน้องคนนั้น ทำผิดเรื่องอะไร ขอให้มาบอกกันตรงๆ จะได้ปรับปรุงแก้ไขกันไป
แต่ถ้าเพียงเพราะไม่ชอบน้องคนนี้ คุณจะใช้อำนาจตรงนี้เห็นจะไม่สมควร
ถ้าคุณคิดว่าคุณมีเหตุผลพอ ขอให้พูดกันตามตรงจะดีกว่า เป็นมนุษย์ปุถุชนมีปัญญา
อีกเพียงไม่นานคุณก็จะเป็นบัณฑิตแล้ว จงใช้ความรู้ที่คุณได้ร่ำเรียนมา ทำตนให้สมกับเป็นบัณฑิต
มิใช่อันธพาล บิดามารดาของท่านจะเสียใจ ที่ส่งคุณร่ำเรียนแล้วยังเป็นอยู่เช่นนี้...

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เราชอบเขาจริงๆรึเปล่านะ?


       มีทริปเด็ดๆ มาฝาก อ่านจบปุ้บ รับรองได้เลยว่ารู้ทันทีแน่ๆ ว่าตัวเองปิ๊งหนุ่มคนนั้นจริงๆ หรือไม่
เด็กดีดอทคอม :: เราชอบเขาจริงๆ รึเปล่านะ ?

1. ต้องรู้จักเขาให้มากขึ้น : บางครั้งน้องๆ อาจจะรู้สึกชอบหนุ่มๆ เพียงแค่เพราะเขาหน้าตาดีก็เป็นไปได้นะคะ บางคนอาจจะตรงสเป็คหนุ่มในฝันของเราเป๊ะ น้องๆ เลยอาจจะคิดว่าเราชอบเขาจริงๆ การที่เราจะรู้ได้ว่าเราชอบเขาจริงๆ หรือไม่ สามารถรู้ได้จากการที่เรารู้จักเขามากขึ้นค่ะ ถ้าหากเรารู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร แต่งตัวแบบไหน ไลฟ์สไตล์ของเขาเป็นอย่างไร พี่เตยเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้น้องๆ มั่นใจได้มากขึ้นว่าน้องๆ ชอบเขาจริงๆ หรือชอบเพียงแค่หน้าตาของเขากันแน่ค่ะ

2. มองดูเขาให้ลึก : ลองคิดให้ดีๆ ว่ามีอะไรในตัวเขาที่พิเศษมากๆ และสามารถดึงความสนใจของเราไปได้ เขามีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น แล้วเราชอบสิ่งที่พิเศษในตัวของเขาหรือไม่

3. รู้สึกดีเมื่อเจอหน้าเขา : ลองสังเกตตัวเองดูว่าเวลาที่เราเจอกับเขา แม้ว่าจะยังไม่ทันพูดคุยอะไรกัน แต่ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาทันที ;)

4. เราคิดถึงเขาบ่อยมั้ย : ถ้าไม่ว่าน้องๆ จะทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็ตาม น้องๆ จะนึกถึงเขาเป็นคนแรกๆ  และรู้สึกอยากให้เขามาร่วมทำกิจกรรมกับเรา น้องๆ อาจจะชอบเขาก็เป็นไปได้น้า

5. เมื่อคิดถึงมุขตลกของเขา แล้วเราจะยิ้มได้ : บางครั้งคำพูดของเขาอาจจะไม่ได้มีสาระและไม่ได้ตลกอะไรเลย แต่น้องๆ ก็แอบยิ้มและหัวเราะทุกครั้งเมื่อนึกถึงประโยคที่เขาพูด หรือน้องๆ อาจจะแอบหัวเราะเมื่อนึกถึงเวลาที่เขาแอบทำอะไรเปิ่นๆ เสมอ

6. บทสนทนาสั้นๆ : ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการสนทนาเพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่น้องๆ สามารถยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึงบรรยากาศตอนนั้น และถ้าน้องๆ สามารถจำรายละเอียดของบทสนทนานั้นได้อย่างแม่นยำล่ะก็ พี่เตยว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงเลยนะว่าน้องๆ น่าจะปิ๊งหนุ่มคนนั้นจริงๆแล้วแหละ :P

7. เราพยายามใกล้ชิดเขาหรือเปล่า? : น้องๆ อาจจะพยายามเร่งฝีเท้า หรือพยายามผ่อนฝีเท้าเพื่อให้ได้เดินอยู่ในระดับเดียวกับเขา เพื่อให้สามารถได้อยู่ในระยะที่ใกล้เขามากที่สุด

8.  เมื่อเราได้สัมผัสเขา :มือของน้องๆ อาจจะไม่โดนแขนของเขาในจังหวะที่เขายกแขนขึ้นมาพอดี ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ ลองสังเกตดูว่าใจเราเต้นถี่มากแค่ไหน บางที หัวใจอาจจะเต้นแรงจนใกล้ระเบิดออกมาแล้วก็ได้ อิอิ

เด็กดีดอทคอม :: เราชอบเขาจริงๆ รึเปล่านะ ?
      เด็กดีดอทคอม :: เราชอบเขาจริงๆ รึเปล่านะ ?

เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะน้องๆ กับแปดข้อง่ายๆ ในการสำรวจหัวใจตัวเอง คราวนี้ก็รู้กันแล้วละซิ ว่าที่จริงเราแอบชอบหนุ่มคนนั้นจริงรึเปล่า ><"  หรือแค่แอบปลื้มเท่านั้น แล้วถ้าน้องๆ คนไหนมีเรื่องราวสนุกๆ
ก็แวะมาบอกเล่าได้นะจ้า ^^

อ้างอิง http://www.dek-d.com/content/all/28943/%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%8a%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b9%86-%e0%b8%a3%e0%b8%b6%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b0-.php

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เพราะเราเหนื่อยหรือเพราะอะไร???


        อารมณ์แบบนี้มันมาอีกแล้ว ตอนนี้เค้ารู้สึกหมดแรง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากคุยกับใคร
เค้ากลัวเค้าเหวี่ยงไม่เลือกอ่ะ เธอก็รู้ว่าเราโกรธแล้วมันน่ากลัวขนาดไหน T^T
ตอนนี้ความรู้สึกมันเหนื่อยเหมือนอยากกอดใครสักคนที่เราไว้วางใจ ให้น้ำตามันไหลออกมา
เทอไม่ต้องพูดอะไรกับเค้าหรอก แต่ขอให้เข้าใจความรู้สึกที่อยากหาที่พักพิง ขอพักตรงนี้หน่อยได้ไหม...
ฉันจะนั่งเงียบๆ ไม่พูดอะไร ขอแค่พื้นที่ความอบอุ่นในหัวใจของเทอให้ฉันได้พักพิง
       

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555


       I'm stupid. Do you think so?

      ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันต้องคอยหลบเลี่ยงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี
มันน่าสมเพชยังไงก็ไม่รู้เนอะ กับการที่คนๆหนึ่งแคร์และใส่ใจกับคนๆหนึ่งมากมาย
แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ค่อยแคร์หรือใส่ใจเราเหมือนที่เราใส่ใจเขา ฉันกลัวเขาจะเจ็บปวดกับคำพูด หรือการกระทำต่างๆ เหมือนกับที่่ฉันเป็น สำหรับเขาก็คงจะรำคาญที่เราไปยุ่งวุ่นวายอยู่อย่างนี้
      ถ้าเราเฉยชา ไม่ใส่ใจ ก็หาว่าว่าเราสนใจแต่ตัวเอง ไม่แคร์คนอื่น ฉันมันอินดี้เกินไป
เธอเข้าใจใช่ไหม ถ้าฉันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก ฉันก็คงไม่มีตัวตนเลยหรือป่าว???
ฉันคนนี้กำลังกลัว T^T  ฉันกำลังสับสน ฉันจึงตัดสินใจที่จะเดินทางสายกลางมาตลอด คือเฉยๆ เอาไว้ก่อน
มันถือเป็นด่านกำแพงด่านแรก ที่ไม่มีใครพังมันลงมาได้ทั้งนั้น ความรู้สึกเป็นห่วงเทคแคร์คนอื่นมันคงจะหายไป
เหนื่อยกับมันแล้วจริงๆ TOT ถ้าหากไม่รักกันก็คงไม่ทำหรอกแบบนี้!!!

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

7 สัญญาณ ที่บอกให้รู้ว่าเขาชอบคุณเข้าแล้ว


        เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ผู้ชายแทบทุกคนมักเป็นพวกที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองเก่ง จนทำให้ผู้หญิงอย่างเราเดาความคิดของเขาไม่ออก และสับสนว่าเขาคิดอย่างไรกันแน่ จะเป็นฝ่ายบอกรักก่อนก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะอกหักกลับมา อะ ๆ ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากนักหรอก เพราะแค่เพียงคุณรู้เคล็ดลับดี ๆ ในการสังเกตว่าผู้ชายที่คุณสนใจชอบคุณหรือไม่ตามนี้ ก็สามารถเดาใจเขาได้ง่าย ๆ แล้วล่ะ

 1. เขาให้ความสำคัญกับคุณมากกว่าอะไร 

          ผู้ชายเป็นประเภท ที่ติดเพื่อนมากอยู่แล้ว และการไปเดินช้อปปิ้งก็เป็นเรื่องที่พวกเขาเกลียดแสนเกลียดอีกด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าเขายอมยกเลิกนัดกับเพื่อน ๆ เพื่อไปเดินเล่นหรือดูหนังเป็นเพื่อนคุณ นั่นก็แสดงว่าคุณเป็นคนสำคัญมาก ๆ สำหรับเขาเลยล่ะ

 2. แอบมองคุณอยู่ตลอด

          เวลาที่เราถูกใจใคร สักคน เราก็มักจะแอบมองเขาอยู่บ่อย ๆ คอยสังเกตแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าเขาจะหัวเราะมุขตลกของเราหรือเปล่า และมองมาที่เราบ้างหรือไม่ ซึ่งเวลาที่ผู้ชายสนใจใครสักคน เขาก็ไม่ต่างกับเรานักหรอก ดังนั้น ถ้าคุณรู้สึกว่าถูกเขาแอบมองเป็นประจำจนผิดสังเกต รู้ตัวไว้เลยว่ามีคนแอบชอบคุณเข้าแล้ว

 3. เขาใส่ใจฟังเรื่องที่คุณเล่า

          ผู้ชายมักไม่ค่อยมี ความอดทนเท่าไหร่นัก และก็ไม่ได้มีความละเอียดอ่อนอย่างผู้หญิงด้วย เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องยากถ้าจะให้เขามานั่งฟังเรื่องชีวิตประจำวันของคนอื่นที่ไม่ ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เขาแคร์จริง ๆ เขาก็จะใส่ใจฟังและจำทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องไร้สาระที่คุณเล่าอย่างแน่ นอน

 4. ชอบหาเรื่องถูกตัวเป็นประจำ

          ถ้าเขาชอบคุณแล้ว เขาก็จะหาโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดคุณแบบเนียน ๆ อยู่ตลอดนั่นแหละ เช่น จับมือหรือนั่งทานข้าวข้าง ๆ คุณตลอดเวลาที่ไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องสังเกตดูให้ดีด้วยว่าเขาพยายามใกล้ชิดคุณมากกว่าผู้หญิงคนอื่นจริง ๆ ถึงจะแน่ใจได้ว่าคุณเป็นคนพิเศษสำหรับเขา

 5. ชมคุณบ่อยกว่าใคร ๆ

          ถ้าแม้แต่ชุดเชย ๆ ที่คุณใส่หรือมุขตลกที่ไม่มีใครสักคนขำยังดูน่ารักในสายตาเขาล่ะก็ รู้ไว้เลยว่าเขาชอบคุณเข้าแล้ว เพราะผู้ชายน่ะไม่ค่อยสังเกตหรอกว่าคนอื่นแต่งตัวอย่างไร หรือเพิ่งเปลี่ยนทรงผมมาใหม่รึเปล่า แถมเรื่องที่จะมานั่งชมเป็นเรื่องเป็นราวยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เว้นแต่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เขาใส่ใจมากจริง ๆ

 6. หาเรื่องแกล้งตลอดเวลา

          จำได้ใช่ไหมว่าตอน เด็ก ๆ ผู้ชายทุกคนก็มักจะหาเรื่องแกล้งเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนที่ตัวเองชอบ ทั้งนั้นแหละ ซึ่งพอโตขึ้นผู้ชายก็ไม่ต่างจากเด็กนักหรอก เพราะเขาก็ยังชอบหาเรื่องแกล้งคนที่ชอบอยู่ดี เพียงแต่จะเปลี่ยนไปตรงที่วิธีการแกล้งจะไม่ใช่แบบเด็ก ๆ อย่างเคยเท่านั้นแหละ ซึ่งเขาอาจจะแซวคุณบ่อย ๆ หรือตีคุณเบา ๆ แทน เพื่อให้คุณหันมาสนใจเขาบ้างก็ได้

 7. เพื่อน ๆ ของเขามักจะแซวเวลาที่คุณอยู่ด้วยกัน

          ถ้าเพื่อน ๆ มักจะนั่งอมยิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์หรือพูดแซวบ้างเป็นประจำเวลาที่คุณอยู่ด้วย กัน หรือพยายามหาโอกาสให้คุณอยู่ใกล้กันบ่อย ๆ นั่นอาจเป็นไปได้ว่าเพื่อน ๆ รู้กันหมดแล้วเขาชอบคุณก็ได้ เลยช่วยเชียร์กันเต็มที่และอดไม่ได้ที่จะขำท่าทางเขิน ๆ ของเขาเวลาที่อยู่
          ถ้าคนที่คุณชอบมีอาการเหมือน 7 ข้อ ที่เราเอามาฝากกันวันนี้ ก็อย่ารอช้า...แสดงออกว่าคุณชอบเขากลับไปให้เขาได้รู้ตัวด้วยนะคะ คุณจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
 

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555


       ไม่รู้นะ... ฉันรู้สึกเชื่อความรู้สึกไว้วางใจที่เรามีให้ต่อกัน ไม่ต้องหวานหรือตัวติดกันตลอดเวลา
ในวันหนึ่งเราควรจะเว้นที่ว่างให้ใครคนนั้นได้มีสังคมของเขา คิดทบทวน มีโลกส่วนตัวที่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ
ถ้าหากว่าตัวติดกันตลอดเวลา มันก็คงเป็นเรื่องน่าเบื่อเกินไป แต่ก็ไม่ใช่หายไปเลยนะ แค่เว้นที่ว่างให้กันบ้าง

       ถ้าหากว่าใครเห็นฉันครั้งแรก ก็คงเหมือนกับเธอนั่นแหละ ที่มองฉันเป็นคนหยิ่งๆ ไม่สนใจอะไรใช่ไหมล่ะ
แต่จริงๆ เปล่าเลย ฉันใส่ใจกับทุกคนที่อยู่รอบข้างฉัน ที่ไม่พูดน่ะ ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะ แต่ว่าแค่มองดูอย่างเงียบๆ
เก็บพฤติกรรม รายละเอียดเล็กน้อย รวมถึงสีหน้าท่าทาง ดูไปฉันเป็นคนละเอียดใช่ไหมล่ะ
เปล่าเลย ฉันก็อยากรู้จักพูดคุยเหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละ แต่ดูเหมือนฉันจะช้ากว่าทุกที
เพื่อนคนอื่นๆ พูดกันไปหมดแล้วเนี่ยดิ สมองฉันก็ช้าซะเหลือเกิน บางทีก็ลืมซะอย่างนั้นว่าจะพูดอะไร เหอะๆ
เอาเหอะ ถ้าจะรู้จักฉันก็เห็นจะต้องทำใจ...

ความในใจ...


      ฉันผิดไหม... ที่ไวต่อความรู้สึกแปลกๆ แม้เพียงเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะบาดแผลในอดีตที่ฝังใจ...
ในความคิดเห็นของฉัน... 
การที่เราจะคบกับใครสักคนหนึ่ง จะต้องเกิดขึ้นจากตัวเอง
ไม่ใช่เสียงรอบข้างจากเพื่อนหรือใครก็ตามที่พยายามสนับสนุนเขาคนนั้นให้ขยับเข้ามาเลื่อนสถานะกลายเป็น "แฟน"
ไม่กดดันหรือยัดเยียดความรู้สึกของตนให้กับเขาหรือเธอคนนั้นโดยไม่เต็มใจ
ไม่จำเป็นต้องพูดหรือสนับสนุนเขาคนนั้นทุกครั้งที่มีโอกาส
แต่ควรจะเว้นระยะไว้ให้เขาได้ทบทวนความรู้สึกที่มีต่อกัน ว่าต่อจากนี้ไปเขาคนนั้นเป็นได้แค่ไหน
และมันจะไม่เป็นสิ่งดีเลย ถ้าคุณจะหม้อเขาทั้งๆที่คุณมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
มันแสดงให้เห็นว่า ขนาดตอนนี้คุณมีแฟนอยู่แล้ว คุณยังมองคนอื่น
แล้วถ้าหากเขาคนนั้นเป็นแฟนกับคุณจริงๆ จะไว้ใจคุณได้อย่างไรว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้อีกกับใคร
ถึงแม้คุณจะตั้งใจเลิกกับเธอคนนั้นอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม...
หากถึงแม้จะเลิกแล้ว คุณหันมาจีบคนที่ตัวเองชอบ ก็ขอให้อย่ารุกมากเกินไป
เพราะจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดด้วยประการทั้งปวง เช่น การกระทำของคุณ เพื่อนหรือคนรอบข้างตัวเขา
และสิ่งสำคัญคือ "ความกลัว"
ความกลัวที่เกิดจากการกระทำของคุณที่ทำให้เขาหรือเธอตกใจ จะทำให้เธอไม่กล้าตอบรับความรู้สึกของคุณ
และอาจจะคิดมากไปต่างต่างนานา
 สำหรับฉันแล้ว...
       ฉันไม่สนใจอตีตของคุณที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ฉันกลัว คือ "การเปลี่ยนแปลง" ต่างหาก!!!
ถ้าใครคนนั้นมีอยู่จริง ขอให้เธออดทน ค่อยๆปลดล็อคกำแพงที่แน่นหนา ด้วยความเสมอต้นเสมอปลาย
"ความไว้วางใจ" จะทำให้ฉันยอมรับเธอเข้ามาใจหัวใจทีละน้อยๆ จนเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ <3
ถ้าหากคุณเห็นว่า "การกระทำสำคัญกว่าคำพูด" ฉันก็คิดเห็นเช่นเดียวกันกับคุณ
เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกสิ่งที่เราคิด ขอให้ฉันและเธอเข้าใจกันก็เพียงพอ...