วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การพูดหน้าห้อง intro ก่อนเข้าเรื่อง


>>>1. Welcome Audience

Good morning/afternoon, ladies and gentlemen.
Hello/Hi. everyone.

First of all, let me thank you all for being here today.
I'm happy/delighted that so many of you could make it today.
It is my great pleasure to be here today.
I appreciate you taking the time to come here today.

>>>2. Introduce yourself

Let me introduce myself. My name is _____
Let me just start by introducing myself. My name is _____
My name is _____


>>>3. Say what your topic is

As you can see on the screen, my topic today is _____
The topic of today's presentation is _____
What I'd like to present to you today is _____
The subject of my presentation is _____

>>>4. Explain why your topic is relevant for your audience

My talk is particularly relevant to those of you who _____
Today's topic is of particular interest to those of you who _____
By the end of this talk, you will be familiar with _____



หรือถ้าไม่เป็นทางการก็เอามาปนกันก็ได้ครับ
I would like to take this opportunity to present you _____
I am pleased to welcome you to this presentation of _____
It is an honor for me to be here presenting you all _____

พอ Intro เสร็จก็ เข้าเริ่มเข้าสู่ Body

I've divided my presentation into ___main parts: X, Y, and Z.
In my presentation, I'll focus on ___ major issues.

Let's begin with the หัวข้อแรกที่จะบรรยาย
First of all, I'll give you an overview of หัวข้อแรกที่จะบรรยาย
I'll begin/ start off by explaning หัวข้อแรกที่จะบรรยาย

Then/ Next / After that, I'll go on to หัวข้อที่สอง
Finally, I'll talk about หัวข้อสุดท้าย

ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกประโยคนะครับ บางอันเหมาะสำหรับงานที่เป็นทางการ บางอันเหมาะสำหรับใช้ในห้องเรียน เลือกไปใช้ให้เหมาะสมด้วยครับ
ประโยคที่อยู่บรรทัดติดกันความหมายจะใกล้เคียงกันเลือกไปใช้ 1 ประโยคพอครับ
ถ้าไม่ได้ทำการนำเสนอคนเดียว เปลี่ยนจาก I เป็น We
เปลี่ยนจาก my เป็น our ด้วยครับ


อ้างอิงจาก 
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8091048/K8091048.html

จากคุณ: Rifle D. 

วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ปณิธานที่ตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 20-29 ตุลา 55


ปณิธานที่ตั้งใจจะทำในช่วงปิดเทอม 20-29 ตุลา 55


1 ฉันจะกลับไปเปนคนเดิม คนที่เฉยชากับทุกสิ่ง มีกำแพงกั้นสูงๆ ไม่ให้ใครเข้ามาได้อีก 

2 ฉันจะกลับไปอยู่ในโลกส่วนตัว ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ต้องแคร์ใคร

3 เทอจะไม่มีอิทธิพลสำหรับตัวฉันอีก ฉันจะไม่มีวันร้องไห้ให้กับเทออีกต่อไป
 
4 ฉันจะไม่ใส่ใจ ไม่เทคแคร์เทออีก จะทำตัวเหมือนแค่คนรู้จัก ถามตามมารยาท
 
5 พักยาวๆ ดูแลแผลของตัวเองให้หาย แล้วเปิดเทอมพร้อมกับฉันคนเดิมที่ใครๆไม่รู้จัก 

6 จะคบกับเพื่อนมากขึ้น ใส่ใจเพื่อนมากขึ้น ออกไปพบคนใหม่ๆ 

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

เรากินอะไรไม่ได้มั่งนะ???

       ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สุขภาพการย่อยอาหารของเค้าไม่ดี มีหลายๆอย่างที่เคยกินได้ แต่ปัจจุบันต้องหลีกเลี่ยง ไม่ใช่เพราะว่ากระแดะหรือเรื่องมาก แต่ว่ากินแล้วกระเพาะอาหารมันไม่ย่อย
 1 แครอท
 2 ผักกระเฉด
 3 กล้วยหอม
 4 สละ
 5 ขนมที่ใส่พวกนมแมว
 6 กะทิกล่องชาวเกาะ
 7 ผักที่ไม่สุก
 8 แป้งที่มากเกินไป
 9
ส่วนอันข้างล่างนี้ เป็นอาหารแปลกๆ ที่เราไม่กิน อันเน้เค้าเรื่องมาก 5555
 1 อาหารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับปลาร้า; ได้กลิ่นแล้วเวียนหัว
 2 อาหารญี่ปุ่น
 3 หัวหอม
 4 เนื้อวัว; ได้กลิ่นแล้วเหม็น จะอ้วก
 5 หัวปลี
 6
       ตอนเน้คิดออกแค่นี้ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมากรอกเพิ่มนะจ๊ะ ^^

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

เรากำลังทำอะไรอยู่???

       ตอนเน้เค้ารู้สึกสับสนนะ เหนื่อยมากๆ อยากคุยกับเทอ แต่ประเด็นคือพูดอะไรไม่ออกอีกตามเคย เค้ารู้สึกดีนะที่เห็นเทอยิ้มได้ มีความสุข แค่อยากรู้ว่าเทอเป็นไงบ้างยังสบายดีไหม??? ฉันรู้ว่าเทอไม่ได้รักฉันแบบนั้น น้องสาวคงจะดีทีสุดแล้วที่เทอจะให้ได้ ฉันก้อพยายามที่จะเป็นให้กับเทอ แต่มันก้อห่วงเทอมากอยู่ดี เทออยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ จะร้องไห้อีกไหม ยิ้มได้อยู่รึป่าว มีอะไรให้ช่วยไหม บอกตรงๆนะ ฉันอาจจะเปนคนที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แสดงออกอะไรไม่ค่อยเป็น แต่อยากให้รู้คำนึงนะว่า "ฉันรักเทอนะ" ยังอยู่ข้างๆเทอ แม้เทอจะมีอะไรที่ไม่สบายใจ มาหาฉันได้นะ ฉันยอมให้เทอคนเดียว เชื่อไหม??? ฉันไม่ชอบที่จะรอใครเรยนะ แต่เทอทำให้ฉันรอได้เป็นวันๆ ฉันไม่ชอบหรอกนะที่เทอจะแคร์คนอื่นมาก นั่นก้อรวมถึงฉันด้วย แต่ฉันอยากให้เทอแคร์เฉพาะคนที่เทอรักก้อพอนะ คนที่สนิท คนที่เทอไว้ใจ แค่นี้ก้อพอแร้วเทอจะได้ไม่คิดมากนะ ตอนเน้เทออาจจะมองว่าฉันเปนป้าขี้บ่น เพราะรักนะ ฉันถึงทำ ไม่อย่างนั้นฉันก้อคงไม่ทำ ไม่แคร์ด้วยซ้ำ ว่าเทอจะเป็นอย่างไร คิดอะไร รักเทอมาก รักฉันอาจจะไม่เหมือนคนอื่น ถ้าเทอมองดีๆแล้วเทอจะรับรู้ได้ด้วยใจนะ ไม่ต้องพูดออกมาหรอก แค่รับไปก้อพอ ^U^
                                                                         จากคนที่เทอให้เป็นน้องสาว

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เหนื่อยมั้ย????????


       การมีความรักมันเหนื่อยขนาดนี้เรยหรอ?????

        หมีอ้วน ไม่รู้ทำไมเค้าถึงคิดถึงเทออีกแล้ว มองไปทางไหนฉันก้อเหนแต่เทอเต็มไปหมด
เธอไม่เคยหนีหายไปจากความทรงจำเค้าได้เรยนะ หัวใจมันจำแต่ภาพเทอเต็มไปหมด มันเหงาและเหนื่อยมากมายรู้ไหม เวลาไม่มีเทอ ทั้งๆที่เค้าพยายามที่จะทำให้เราเป็นเหมือนพี่น้อง เปนน้องสาวของเทอ เปนเด็กดีของเทอ T^T ที่เทอให้เราเปน แต่มันยากเหลือเกิน เค้าอ่อนแอเกินไป
เค้ารักเทอมากนะ...หมีอ้วน เค้าไม่อยากเหนเทอร้องไห้ มันเจ็บเหลือเกินรู้ไหม????
ยิ่งเทอพยายามที่จะเข้มแข็ง เค้าก้อรู้สึกนะว่ามันไม่ได้เปนอย่างนั้น
ถ้าเทอจะร้องไห้ก้อขอให้ร้องไห้กับฉันได้ไหม อย่าเหนเค้าเปนคนอื่นเรยนะ
มันเหมือนเค้าช่วยอะไรเทอไม่ได้ รู้สึกแย่จังเรย :( เค้ารักเทอนะหมีอ้วน

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คำคมภาษาอังกฤษ

Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them.

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ



The determined man finds the way, the other finds an excuse or alibi.

ผู้ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นจะหาหนทางแก้ปัญหา ในขณะที่คนอื่นจะหาหนทางแก้ตัว



Ifyou always do what interests you, then at least one person is pleased.

ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ




True love is like a jigsaw puzzle. The pieces will find themselves
when they are right for each other.

ความรักที่แท้จริงก็เหมือนกับเกมจิ๊กซอร์ ชิ้นส่วนทั้งหมดจะสามารถค้นพบตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อแต่ละชิ้นสามารถหาชิ้นที่"ใช่"สำหรับตัวมันเอง




You get the best out of others when you give the best of yourself.

คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป




The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes.

ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับ โอกาสที่มาถึง




The best and most beautiful things cannot be seen or even touched, they must be felt with the heart.

สิ่งที่สวยงามที่สุดมิอาจสัมผัสได้โดยสัมผัสทางกาย ทว่าต้องรับรู้ผ่านหัวใจ




The only thing in life achieved without effort is failure.

มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช ้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว 




To love is nothing. To be loved is something.
To love and be loved is everything!!

การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นเพียงแค่บางสิ่งบางอย่าง
ส่วนการได้รักและการถูกรัก นั้นเป็นทุกอย่าง


An army marches on its stomach = กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

10 นิสัยของผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบม๊าก มากกกก ให้ผู้ชายเป็น

10 นิสัยของผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบม๊าก มากกกก ให้ผู้ชายเป็น



1. ชอบผู้ชายที่ให้เกียรติตนทั้งต่อหน้าและลับหลังคนอื่น 
อีโก้น่ะลด ๆ ลงบ้างก็ได้ ไม่ต้องกลัวชาวบ้านเค้าหาว่ากลัว (ภรรยา) หรอก


2. ชอบผู้ชายพูดจาไพเราะ อ่อนหวานแต่ไม่เหยาะแยะ แฝงความเข้มแข็งในน้ำเสียง คำแทนตัวสมัยพ่อขุนรามฯไว้พูดกับเพื่อน ส่วนกับแฟนไม่ต้องเพราะแฟนต้องการความจริงใจไม่ได้ใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างเดียว
3. ชอบผู้ชายที่ยิ้มง่ายและมีอารมณ์ขัน 
จะเก๊กไปถึงไหนค่ะ ไม่ได้หล่อขึ้นมาหรอก

4. ชอบผู้ชายที่ช่างเอาใจ จำวันสำคัญๆได้บ้าง 
ไม่ต้องจำทุกวันหรอกค่ะแค่วันที่สำคัญ ๆ ก็พอ


5. ชอบผู้ชายที่ดูแล้วอบอุ่น พึ่งพาได้ จะได้รู้ว่าเวลามีแมลงสาบวิ่งมา
จะได้ไม่โดดมาแย่งเก้าอี้แล้วกรี๊ดแข่งกับเรา

6. ชอบผู้ชายที่เก่งกาจ มีความเป็นผู้นำ แต่ไม่สำคัญตัวเองและดูถูกเรา 
รู้แล้วว่าคุณหนุ่ม ๆ น่ะเก่ง ว่าแต่เก่งพอที่จะรู้หรือเปล่าว่าเราสาว ๆ เค้าแกล้งโง่น่ะ


7. ชอบผู้ชายที่รู้จักง้อบ้าง ยิ่งเวลาตัวเองผิดด้วยเนี่ย 
คำว่าขอโทษ ๆ น่ะ พูดไม่ยากนะคะคุณผู้ชาย


8. ชอบผู้ชายที่แต่งตัวภูมิฐาน สะอาดสะอ้าน 
เวลาควงด้วยจะได้รู้สึกภูมิใจ ไม่อายชาวบ้าน และที่สำคัญถ้าคุณหนุ่ม ๆ ดูดี จะทำให้สาวอื่นอิจฉานั่นแหละสิ่งที่คุณสาว ๆ ชอบ

9. ชอบผู้ชายที่เสมอต้นเสมอปลาย แสดงออกว่ารักอย่างสม่ำเสมอ 
ผู้หญิงเป็นคนที่หวั่นไหวง่าย ต้องย้ำกันบ่อย ๆ นะค่ะหนุ่ม ๆ

10. ชอบผู้ชายที่เวลาไปไหนมาไหน ก็บอกกันบ้าง 
ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วนะคะ ทำอะไรนึกถึงคุณสาว ๆ กันบ้างค่ะ

จาก:  http://variety.teenee.com/foodforbrain/41053.html